วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

10 ผลไม้ดีมีประโยชน์

 10 อันดับผลไม้กินแล้วไม่อ้วนผลไม้ 10 ชนิดต่อไปนี้ จัดเป็นผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ และ กินได้บ่อยๆ แบบไม่ต้องกลัวอ้วน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์และเพิ่มภูมิคุ้มกันอีกด้วย ผลไม้ทั้ง 10 ชนิดนี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ย 1.9 – 10 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม โดยอะโวกาโดมีคาร์โบไฮเดรตต่ำสุด แอปเปิลมีคาร์โบไฮเดรตสูงสุดกีวี - มีสารแอกทินิดีน ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันทำให้หัวใจแข็งแรงมะเขือเทศ - ช่วยลดความเสียงจากมะเร็งและโรคหัวใจมะละกอ – ช่วยย่อยอาหารและโปรตีนอะโวกาโด –  ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งชนิดต่างๆ ได้ถึง 30 ชนิดสับปะรด – ช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียผลไม้จำพวกเบอร์รี่ – เช่น สตอเบอร์รี่ แบลคเบอร์รี่ ผลไม้กลุ่มนี้ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตแครนเบอร์รี่ – ช่วยป้องกันนิ่วในไต ต้านเชื้อไวรัสผลไม้ตระกูลส้ม – ช่วยลดคอเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือดผลไม้กลุ่มแตง – มีสรรพคุณสูงสุดในการล้างพิษให้กับร่างกายแอปเปิ้ล – ช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหารการกินผลไม้ กินแล้วดี มีประโยชน์มากมาย แต่บางครั้งก็ต้องเลือกกิน และกินในปริมาณที่พอดี เพราะมีผลไม้บางชนิดที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งอาจจะทำให้อ้วนได้ผลไม้ที่กิน แล้วอ้วนสุด ๆ คือ กล้วยไข่อันดับ
2 คือ กล้วยน้ำว้าอันดับ
3 คือ ขนุนอันดับ
4 คือ กล้วยหอมอันดับ
5 คือ มะม่วงน้ำดอกไม้สุกอันดับ
6 คือ ลำไยกะโหลกเขียวอันดับ
7 คือ ลองกองอันดับ 8 คือ เงาะอันดับ 9 คือ ลางสาดอันดับสุดท้ายน้ำตาลน้อยสุด คือ ละมุดแต่ ทุเรียน ก็เป็นผลไม้ ที่ขึ้นชื่อว่ามีน้ำตาลสูงมาก ๆ ใครที่กินรับรองอ้วนแน่ ส่วนผลไม้ที่กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน ได้แก่ แอปเปิ้ล ชมพู่ ฝรั่ง มะม่วงดิบ มะละกอ และ แตงโมรู้อย่างนี้แล้ว ถ้าไม่อยากอ้วนจนเกินไป ลองหาผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วนมากินกันได้.
10 อันดับ ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง กรมอนามัยวิจัย 10 ผลไม้ไทย มีสารต้านมะเร็งสูง นางนัทยา จงใจเทศ นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ กองโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการทำวิจัย “องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และ เบต้าแคโรทีน) ในผลไม้” ที่ทำการศึกษาในผลไม้ 83 ชนิด พบว่าผลไม้ 10 อันดับแรกที่มีเบต้าแคโรทีนสูงคือ 1. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 2. มะเขือเทศราชินี 3. มะละกอสุก 4. กล้วยไข่ 5. มะม่วงยายกล่ำ 6. มะปรางหวาน 7. แคนตาลูปเนื้อเหลือง 8. มะยงชิด 9. มะม่วงเขียวเสวยสุก 10. สับปะรดภูเก็ต ผลไม้ทั้งหมดนี้มีเนื้อสีเหลืองและสีเหลืองเข้มส่วนผลไม้ที่ไม่มีเบต้าแคโรทีนเลย 1. แก้วมังกร 2. มะขามเทศ 3. มังคุด 4. ลิ้นจี่ 5. สาลี่ 10 อันดับแรกของผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงคือ 1. ฝรั่งกลมสาลี่ 2. ฝรั่งไร้เมล็ด 3. มะขามป้อม 4. มะขามเทศ5. เงาะโรงเรียน 6. ลูกพลับ 7. สตรอเบอร์รี่ 8. มะละกอสุก 9. ส้มโอขาว 10. แตงกวา 11. พุทราแอปเปิล การศึกษานี้พบผลไม้ที่มีวิตามินอีสูง 10 อันดับแรกคือ 1. ขนุนหนัง 2. มะขามเทศ 3. มะม่วงเขียวเสวยดิบ 4. มะเขือเทศราชินี 5. มะม่วงเขียวเสวยสุก 6. มะม่วงน้ำดอกไม้สุก 7. มะม่วงยายกล่ำสุก8. แก้วมังกรเนื้อสีชมพู 9. สตรอเบอร์รี่ 10. กล้วยไข่ผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินอีน้อยทั้ง 3 ตัว คือ สาลี่ องุ่น และแอปเปิลส่วนผลไม้ที่มีสารทั้ง 3 ตัว ค่อนข้างสูงคือ มะเขือเทศราชินีทั้งนี้ เบต้าแคโรทีน วิตามินซีและอี เป็นกลุ่มของสารอาหารที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่ก่อให้ร่างกายเกิดการอักเสบ ทำลายเนื้อเยื่อ เกิดต้อกระจกในผู้สูงอายุ โรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด สารทั้ง 3 ตัว โดยเฉพาะ เบต้าแคโรทีนจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งการก่อกลายพันธุ์ ป้องกันเนื้องอก ลดความเสี่ยงการเป็นต้อกระจก มะเร็งและหัวใจได้ จึงควรรับประทานผลไม้ในปริมาณมากพอสมควรทุกวัน หรืออย่างน้อยวันละ 4 ส่วนของอาหารที่รับประทาน เพื่อสุขภาพที่ดี.